Saturday, December 5, 2015

"หมาเฝ้าบ้าน" ต้องไม่ใช่ "หมาหมู่" หรือ "หมาหิว"

คำแนะนำของผมสำหรับคนข่าวรุ่นใหม่คือจะต้อง "สร้างความแตกต่าง" ให้ผู้ติดตามเชื่อว่า "คุณหาเนื้อหาที่มีคุณภาพเช่นนี้ได้จากที่นี่เท่านั้น" เพราะในโลกดิจิตัลที่มี "ข่าวทั่วไปล้นเอ่อทุกนาที," คนข่าวที่สร้างความโดดเด่นและเป็นมืออาชีพอย่างจริงจังเท่านั้นจึงจะมีที่ยืนอย่างมั่นคงได้
ต้องกลับไปสู่พื้นฐานของการเขียนข่าวกระชับชัดเจน, ตรวจสอบความถูกต้องของเนื้อหา, Get it first, but first get it right! ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่เป็นข่าว, รักษาจริยธรรมต่อผู้เป็นข่าวและแหล่งข่าว, หมั่นฝึกซ้อม "จมูกข่าว" ให้ว่องไว่แม่นยำเพื่อทำหน้าที่ "หมาเฝ้าบ้าน" ที่มีคุณภาพ ไม่กลายเป็น "หมาหมู่" ที่แห่ตามกระแสอย่างไร้หลักการ, และไม่เป็น "หมาหิว" ที่กระโดดเข้างับเนื้อที่ผู้หวังผลประโยชน์โยนมาให้
คุณภาพของคนข่าวทุกวันนี้โดยเฉลี่ยแล้วหดตัวลงเพราะไม่มีการสร้างคนข่าวที่มีคุณภาพมาทดแทนที่หายไป ไม่ฝึกฝนให้มีความคล่องตัวในยุคโซเชียลมีเดียที่มีมากกว่าเพียงแต่เล่น Facebook และ Twitter กับ Instagram โดยไม่ได้ใช้เครื่องมือเหล่านี้เสริมให้ทำรายงานสืบสวนสอบสวนให้รอบด้านและเปิดโปงความไม่ชอบมาพากลของสังคม
พูดเฉพาะในวงการทีวี แต่ก่อนมีฟรีทีวี 6 ช่อง มีคนข่าวทั้งหน้าจอและหลังจอจำนวนหนึ่ง วันนี้มีดิจิตัลทีวี 22 ช่อง แต่คุณภาพของคนข่าวเท่าเดิม
แต่ก่อนคุณภาพเฉลี่ยของคนข่าวหารด้วย 6 วันนี้หารด้วย 22
ซึ่งแปลว่าคุณภาพเฉลี่ยของคนข่าวลดทอนลงไปอย่างน่ากังวลยิ่ง
การแข่งขันทำเรตติ้งส์ทำให้เกิดการแก่งแย่งกันไปทางลดคุณภาพ มุ่งหาดราม่าและเนื้อหาตามกระแส เอาใจเฉพาะคนสมาธิสั้น ไม่สนใจสร้างเนื้อหาลุ่มลึกและเจาะลงไปในเรื่องราวที่มีความสำคัญต่อสังคม
ถามว่าแข่งกันหรือไม่? ตอบว่ายังแข่งกันอยู่แต่แข่งกันว่า "ใครจะเน่ากว่าใคร?"
หน้าที่ของคนข่าวที่ดีคือการแยก "สาระ" จาก "กระพี้"
ทุกวันนี้ก็มีการแยกสาระจากกระพี้...แต่เมื่อแยกแล้วก็เก็บสาระใส่ลิ้นชัก นำเสนอเฉพาะกระพี้
จึงเป็นที่มาของสภาพ "วิกฤตของคนข่าว" ทุกวันนี้
 
 
 
 

เมื่อ New York Times เอาบทนำขึ้นหน้าหนึ่งครั้งแรกใน 95 ปี

เป็นครั้งแรกใน 95 ปีที่ New York Times ตีพิมพ์ "บทบรรณาธิการ" ขึ้นหน้าหนึ่งซึ่งปกติจะเป็นเนื้อหาข่าวที่ไม่มีความเห็นแต่อย่างไร
แต่เช้าวันนี้ (เสาร์ที่ 5 ธันวาคม 2015) ล้อมกรอบด้านซ้าย "The Gun Epidemic" ใช้ภาษาดุดันวิพากษ์นักการเมืองและกลุ่มบุคคลต่าง ๆ ที่ยังยอมให้คนซื้อหาอาวุธปืนได้อย่างง่ายดายเพื่อไปสร้างเหตุการณ์กราดยิงที่ทำให้คนตายและบาดเจ็บอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดที่มีการยิงกันที่แคลิฟอร์เนีย ตาย 14 คนนั้นเป็นความรุนแรงลักษณะนี้ครั้งที่ 355 ในปีนี้แล้ว ยิ่งตอกย้ำความล้มเหลวของระบบการเมืองสหรัฐฯที่ไม่สามารถจะแก้ไขกฎหมายเพื่อป้องกันเหตุการณ์เช่นนี้ได้
บรรณาธิการ NYT บอกว่าเพราะเรื่องนี้สำคัญอย่างยิ่ง จึงต้องปรับนโยบายโดยยอมให้มี Page One Editorial เพื่อย้ำความรุนแรงของปัญหาที่ยังแก้ไม่ได้
ครั้งสุดท้ายที่หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ขึ้นความเห็นหน้าหนึ่งหรือเมื่อปี ค.ศ. 1920 ครั้งนั้นเป็นการแสดงจุดยืนต่อต้านการที่พรรครีพับบลิกันเสนอชื่อให้นาย Warren Harding เป็นตัวแทนพรรคในการชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดี
หลังจากนั้น แม้บรรณาธิการจะต้องการสนับสนุนหรือคัดค้านผู้สนัครตำแหน่งประธานาธิบดีคนไหน, บทความเห็นนั้นก็จะปรากฏในหน้าบทนำหรือ Editorial Page หรือหน้า Op-Ed (Opposite the Editorial Page) เท่านั้น
ครั้งนี้ปัญหา Gun Control หนักหน่วงถึงขั้นที่ต้อง "กระทุ้ง" นักการเมืองด้วยการเอาบทนำขึ้นหน้าแรก
บรรณาธิการบอกว่า "แม้นี่จะเป็นยุคดิจิตัล แต่การเสนอความเห็นในเรื่องสำคัญต่อประเทศชาติที่หน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ยังสามารถสร้างพลังแห่งมติมหาชนได้..."
"ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าความปลอดภัยของชีวิตประชาชนแล้วไม่ใช่หรือ?" บก. ถาม