Sunday, September 29, 2013

Open Newsroom: อีกช่องทางหนึ่งของห้องข่าวดิจิตัล

คำว่า "ห้องข่าวเปิด" หรือ Open Newsroom เป็นนวัตกรรมของคนข่าวที่ต้องการให้คนอ่านและผู้บริโภคข่าวมีส่วนร่วมในการเสริมให้คนข่าวอาชีพสามารถทำหน้าที่ของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับโลกยุคที่ social media สามารถทำให้ทุกคนมีส่วนในการสร้างเนื้อหาสาระของข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมเป็นส่วนรวมได้มากขึ้นกว่าแต่ก่อน

Storyful เป็นตัวอย่างของความพยายามที่จะก้าวเข้าสู่ภูมิทัศน์แห่งห้องข่าวยุคดิติจัลเช่นนั้น เป็นรูปแบบของ "สำนักข่าว" ที่ใช้เครือข่ายสื่อสังคมเป็นตัวเชื่อมประสานระหว่างคนทำข่าวกับผู้บริโภคข่าวที่สามารถแลกเปลี่ยนและเสริมการทำงานของกันและกัน

เริ่มต้น Storyful ใช้ Google+ เป็นแหล่ง "พบปะ" ของคนข่าวและสมาชิกจำนวนหนึ่งที่จะช่วยตรวจสอบภาพ, วีดีโอ, และเนื้อหาอื่น ๆ ที่ผ่านเข้ามาทาง Twitter, Facebook, Youtube และ Flickr และนำเสนอร่วมกันด้วยการประสานงานของมืออาชีพข่าวกับผู้รู้ในสาขาวิชาชีพต่าง ๆ ที่จะให้ความเห็นร่วมกันต่อข่าวใหญ่ประจำวัน

บรรณาธิการของ Storyful Markham Nolan บอกว่าเป้าหมายของการเปิด "ห้องข่าวเปิด" ก็เพื่อจะได้เปิดประตูกว้างให้ผู้เชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ ได้เข้ามาร่วมตรวจสอบว่าข่าวและภาพแต่ละชิ้นนั้นมีความถูกต้องแม่นยำเพียงใด

เช่นหากมีข่าวเรื่องสงครามที่ซีเรีย อาจจะคนเขียนบล็อกบางคนที่เชี่ยวชาญด้านอาวุธเข้ามาให้ข้อมูลและความรู้เกี่ยวกับอาวุธที่ใช้ในการทำศึกสงคราม และตรวจสอบว่าข่าวที่เขียนจากภาคสนามเกี่ยวกับอาวุธที่ใช้นั้นถูกต้องแม่นยำเพียงใด

ห้องข่าวเปิดเช่นนี้มีลักษณะละม้ายกับที่ BBC เปิด "โต๊ะ User-Generated Content" ในห้องข่าวเพื่อให้คนดูและประชาชนทั่วไปส่งข่าว, ภาพและวีดีโอเข้ามาเพื่อแบ่งปันกันให้เกิดประโยชน์สูงสุด

นักข่าวบางคนเช่น Andy Carvin แห่ง NPR ก็เคยขอให้เพื่อน ๆ ของเขาในทวิตเตอร์ช่วยตรวจสอบภาพของเหยื่อสงครามในอียิปต์และตูนีเซีย หรือวีดีโอของตึกรามบ้านช่องที่ถูกระเบิดถล่มพังเสียหายและเนื้อหาข่าวอื่น ๆ ที่เขาเตรียมจะรายงาน แต่อยากให้ผู้รู้จริงใน social media ได้ช่วยตรวจสอบดูก่อนว่าถูกต้องและตรงกับความเป็นจริงมากน้อยเพียงใดหรือไม่

แวดวงข่าวของไทยเรายังไม่มีการทำ "Open Newsroom" ลักษณะนี้อย่างเป็นเรื่องเป็นราวแม้จะมีนักข่าวบางคนจะใช้ทวิตเตอร์และเฟซบุ๊กในการสร้างบทสนทนากับผู้คนในวงการเครือข่าวสือสังคมในการตรวจสอบและถามไถ่ถึงรายละเอียดในประเด็นที่เป็นข่าวบ้างก็ตาม

น่าเชื่อได้ว่า Open Newsroom จะค่อย ๆ เกิดขึ้นได้ในห้องข่าวขององค์กรข่าวที่ต้องการจะขยับขยายการทำหน้าที่ให้สาธารณชนมีส่วนร่วมในกระบวนการเฟ้นหาความจริงและตรวจสอบความถูกต้องของเนื้อหาก่อนการนำเสนออย่างแน่นอน

No comments: