Tuesday, December 11, 2012

วิเคราะห์ความล้มเหลวของ The Daily ของเจ้าพ่อสื่อเมอร์ดอก

พอมีคำประกาศจากเจ้าพ่อสื่อรูเพิร์ท เมอร์ดอกว่า วันที่ 15 ธันวาฯนี้จะปิด The Daily ซึ่งเป็น "หนังสือพิมพ์แท็บเบล็ท" อ่านได้เฉพาะในแท็บเบล็ทและสมาร์ทโฟนเพราะไม่สามารถสร้างรายได้เพียงพอก็มีคำวิจารณ์ "เหตุแห่งความล้มเหลว" กันหลากหลายมากมาย
แน่นอนว่าการกระโดดเข้าสู่ "หนังสือพิมพ์ดิจิตัล" ของเมอร์ดอกเมื่อเกือบสองปีก่อนนั้นเป็นความเคลื่อนไหวที่สร้างความฮือฮาไม่น้อย
เพราะอย่างน้อยก็มีคนเชื่อว่าเจ้าพ่อสื่อคนนี้มีกระเป๋าหนักพอที่จะลองทำอะไรอย่างที่คนอื่นเขาไม่กล้าคิดจะทำเพราะไม่มีสายป่านยาวเพียงพอที่จะลองผิดลองถูกได้
แต่แม้จะมีทุนหนาเพียงใด, เมอร์ดอกก็เป็นนักธุรกิจ การขาดทุนต่อเนื่องโดยไม่เห็นโอกาสสร้างรายได้เพียงพอก็ไม่อาจจะอยู่ยืนยาวได้เช่นกันกัน
คำแถลงการณ์ของเจ้าพ่อวันประกาศปิด The Daily บอกว่า
"Unfortunately, our experience was that we could not find a large enough audience quickly enough to convince us the business model was sustainable in the long term. Therefore, we will take the very best of what we have learned at The Daily and apply it to all our properties..."
ซึ่งก็คือการยอมรับว่าแม้จะทุ่มทุนสร้างกองบรรณาธิการแยกออกมาพร้อมทีมบริหารแยกส่วนออกมา แต่ก็ไม่สามารถสร้างฐานสมาชิกที่พร้อมจะจ่ายเงินเพื่อรับข่าวและบทความรายวันทางแท็บเบล็ทได้เพียงพอ
ตอนที่เปิดตัว The Daily นั้นเสียงชื่นชมบอกว่าเมอร์ดอกกำลังทดลองกับสูตรที่จะรักษาสิ่งพิมพ์เอาไว้ นั่นคือการเอาเนื้อหาแบบสิ่งพิมพ์ใส่ในแท็บเบล็ท โดยไม่ต้องใช้กระดาษ ไม่ต้องมีสายส่ง ทุกอย่างอยู่ที่ปลายนิ้วสัมผัสของผู้บริโภคข่าวดิจิตัล
ความจริง The Daily ก็หาสมาชิกจ่ายเงินได้กว่า 100,000 ราย และมี unique readers ถึง 250,000 รายต่อเดือนในช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่สั้น ๆ นั้น
แต่กระนั้น ก็ยังขาดทุนปีละประมาณ 30 ล้านเหรียญ (900 ล้านบาท)
บทเรียนสำคัญจากความล้มเหลวของ The Daily มีมากมายหลายประการเช่น
๑. การจำกัดให้ต้องอ่านข่าวและบทความในอุปกรณ์ใดอุปกรณ์หนึ่งแม้จะเป็นดิจิตัลก็ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคข่าวยุคดิจิตัลที่สามารถเข้าถึงเนื้อหาข่าวได้ตลอดเวลาผ่านสื่อหลากหลาย
๒. ผู้บริโภคข่าววันนี้ต้องการที่จะแชร์ข่าวพอ ๆ กับรับรู้ข่าว
๓. The Daily เป็นรูปแบบนำเสนอที่ผิดพลาดตั้งแต่ต้นเพราะมองข้ามความจริงที่ว่าในยุคดิจิตัลนี้คุณต้องสามารถเข้าถึงผู้รับรู้ข่าวสารที่กว้างขวางผ่านแพลตฟอร์มทุกรูปแบบโดยไม่ต้องออกแบบแยกส่วนสำหรับสินค้าข่าวสารแต่ละตัว
๔. The Daily ออกแบบมาเพื่อให้ทุกคนต้องมาหาตนเพื่อจะได้ข่าวสารและเนื้อหาขณะที่ผู้คนต้องการมีเสรีภาพที่จะไปหา device ทุกรูปแบบตลอดเวลา
๕. คุณไม่สามารถสร้างแบรนด์ใหม่ขึ้นมา ให้คนลองสี่สัปดาห์แล้วเก็บเงินค่าสมาชิก และขณะเดียวกันก็จำกัดรอยเท้าของเนื้อหาในอินเตอร์เน็ท และตั้งความหวังว่าจะมีคนพร้อมจะจ่ายสตางค์เพื่อซื้ออ่านทุกวัน
๖. ความล้มเหลวของ The Daily อาจจะมาจากมากกว่าหนึ่งสาเหตุเช่นอาจจะเป็นเรื่องของ platform หรือ business model หรือโครงสร้างเทอะทะของบริษัท News Corp
หรืออาจจะเป็นเพราะเนื้อหาที่ค่อนข้างจะจืดและตื้น
๗. หรืออาจจะสรุปได้ว่าความล้มเหลวมาจากการผสมปนเปของสาเหตุต่าง ๆ ทั้งหมดนี้ อย่างละเล็กละน้อยก็เป็นไปได้ (รวมถึงชื่อ The Daily ที่ไร้เสน่ห์เอามาก ๆ)
นักวิเคราะห์คนหนึ่งสรุปอย่างน่าฟังว่า
"The Daily applied traditional media tactics to what could have been a revolutionary product. Pay walls, once-daily publishing and single-platform delivery were not good enough to compete in a marketplace full of new products that meet user needs and are properly suited to phones, tablets, laptops and desktops..."
แต่จะสรุปจากประสบการณ์ของ The Daily ว่าการเคลื่อนตัวเข้าสู่แท็บเบล็ทหรือสมาร์ทโฟนของเนื้อหาสาระแห่งสิ่งพิมพ์เป็นเรื่องไร้อนาคตโดยสิ้นเชิงก็เห็นจะไม่ได้
เพราะนิตยสารอย่าง Popular Mechanics และ The Economist หรือ The New Yorker ก็สามารถสร้างฐานสมาชิกได้อย่างน่าประทับใจบนแทบเบล็ทและสมาร์ทโฟนไม่น้อย
อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผมเชื่อว่าเรื่องของ Brand และการสร้างความสะดวกง่ายให้กับผู้บริโภคข่าวและสาระวันนี้คือเส้นแบ่งระหว่างความสำเร็จกับความล้มเหลวค่อนข้างแน่นอน
ผมยังเกาะติดการปรับเปลี่ยนสะท้ายโลกสื่อสารมวลชนนี้อย่างใกล้ชิดทุกนาทีครับ

No comments: