Saturday, January 14, 2012

ปฏิวัติห้องข่าว...เริ่มที่นักข่าวภาคสนาม (1)


ผมถือว่าปีนี้จะเป็นปีแห่งการ "ปฎิวัติ" การทำงานของคนข่าวยุค "Digital First" หรือทั้งคิดทั้งปฏิบัติตนเป็น "คนข่าวดิจิตัล" อย่างแท้จริงหลังจากที่ตระเตรียมและเกาะติดวิถีชีวิตของคนข่าวมืออาชีพที่ปรับเปลี่ยนมาแล้วหลายปี

ห้องข่าวดิจิตัลคือศูนย์ปฏิบัติการที่คนทุกตำแหน่งทุกหน้าที่จะต้องปรับตัว,ปรับความคิด, ปรับทัศนคติต่อการทำงานข่าวอย่างเป็นรูปธรรม

ไม่ใช่เพียงบอกว่าเห็นด้วยกับการต้องปรับเปลี่ยน, แต่เดินกลับไปที่โต๊ะทำงานก็ยังใช้กระบวนการคิดและทำงานเหมือนเดิม

อย่างที่มีคำกล่าวในหลายวงการว่า "ยิ่งเปลี่ยน,ยิ่งเหมือนเดิม"

แต่สัจธรรมวันนี้สำหรับคนข่าวก็คือว่าหากเขาไม่เปลี่ยนให้สอดคล้องกับความเป็นไปของการรับรู้ข่าวสารในสังคม เขาก็จะไม่มีที่ยืนในสังคมที่ทุกอย่างขับเคลื่อนไปอย่างรวดเร็วและรุนแรง ไม่มีความปรานีสำหรับคนที่ปฏิเสธความเป็นจริงของวันนี้

เข้าสูตร Adapt or Die

หรือ Change...or be changed

นั่นแปลว่าหากคุณไม่เปลี่ยน, คุณก็จะถูกเปลี่ยนอยู่ดี

เริ่มจากกระบวนการทำงานของนักข่าวในภาคสนามซึ่งจะต้องใช้ความเป็นดิจิตัล และ social media รวมถึงความสามารถในการใช้ "ปัญญาแห่งฝูงชน" (wisdom of the crowd) ในการตรวจสอบ, แสวงหา, วิเคราะห์, ระดมความคิด, แจกแจงและแจกจ่ายข่าวสารและข้อมูลอย่างคล่องแคล่วทึ่จังหวะการทำงานตลอดทั้งวัน

ถ้าคุณเป็นนักข่าวสายทั่วไป, คุณใช้ทวิตเตอร์ในการรายงาน breaking news ณ นาทีที่เหตุการณ์เกิดขึ้น

หากคุณอยู่สายข่าวทำเนียบรัฐบาลหรือสภาฯ คุณต้อง live-tweet การประชุมที่มีความสำคัญ และเพื่อรวบรวมความเคลื่อนไหวของข่าวเดียวกันให้เห็นภาพรวม คุณก็จะส่งข้อความที่ทวีตหลาย ๆ ข้อความไปที่ blog ของคุณเพื่อให้เห็นภาพรวมและเบื้องหลังของข่าวที่สามารถตีความให้สอดคล้องกับความต้องการของคนอ่านได้

หากคุณใช้ Storify เป็น คุณก็สามารถรวบรวมข้อความทั้งของคุณและคนอื่น ๆ ที่ทวีตหรือที่เขียนลงเฟซบุ๊คและคลิบที่ส่งขึ้น YouTube ในหัวข้อใดหัวข้อหนึ่งเพื่อการเรียบเรียงและรวบรวมให้เห็นการไหลเทของเหตุการณ์หรือความเห็นในแต่ละเรื่องนั้น ๆ อย่างเป็นระเบียบและตรวจสอบความถูกต้องแม่นยำได้อย่างต่อเนื่อง

ทุกวันนี้ คนข่าวที่คล่องแคล่วจรู้จักวิธีใช้ Twitter, Facebook, Google+ และ YouTube ให้ได้ประโยชน์สูงสุดในการทำข่าวและสร้างชุมชมข่าวของตน

ไม่ว่าคุณจะอยู่สายข่าวไหน การทำงานของคุณจะผสมผสานวิธีการทำงานแบบดั้งเดิมแต่ทรงประสิทธิภาพ นั่นคือการเช็คข่าวด้วยโทรศัพท์, ด้วยการนัดพบแหล่งข่าว และตรวจสอบข่าวดิจิตัลผ่านการเฝ้าติดตาม #hashtags หรือ feeds ในทวิตเตอร์และหน้าของเฟซบุ๊ค อีกทั้งใช้ Searches ของ social media อย่างเป็นระบบ

คุณต้องเรียนรู้ที่จะใช้ TweetDeck หรือ HootSuite หรือ Twitter Lists ในการเฝ้าระวังแหล่งข่าวสำคัญ ๆ รวมไปถึงการค้นหาและ hashtags ของคนอื่น ๆ ที่เกาะติดเรื่องราวที่อยู่ในสายข่าวของคุณอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง

ในฐานะนักข่าวดิจิตัลในภาคสนาม คุณทวีตข่าวที่เกิดขึ้น และส่งข้อความเบื้องหลังข่าวไปถึงบรรณาธิการข่าวของคุณทันทีที่คุณตรวจสอบความแม่นยำอย่างรวดเร็วและฉับพลัน

อย่าให้ "ความเร็ว" มาทำลาย "ความแม่นยำ" หรือ "ความน่าเชื่อถือ" เป็นอันขาด

ดั่งคำขวัญที่ผมคิดว่าควรจะต้องเขียนตัวโต ๆ ติดไว้ข้างฝาของห้องข่าวทุกห้อง: Get it first. But first, get it right.

ในกระบวนการทำงานข่าวประจำวันนั้น นักข่าวดิจิตัลต้องรู้จักใช้ crowdsourcing อย่างชาญฉลาด..นั่นแปลว่าการมีปฏิสัมพันธ์กับคนทั่วไปที่เข้ามาอยู่ใน social media เช่นหากเป็นข่าวใหญ่หรือที่มีความสำคัญต่อชุมชน คุณก็ควรจะเข้าไป live chat กับเพื่อนหรือผู้ตามคุณในเฟซบุ๊คหรือทวิตเตอร์เพื่อขอความเห็นเพิ่มเติม, ความเห็นแย้ง, หรือมุมมองที่คุณมองข้าม

บ่อยครั้ง, คนที่อยู่ในแวดวงเครือข่ายสังคมจะสนทนากันในหัวข้อที่กำลังเป็นข่าวร้อนอยู่แล้ว คนข่าวจึงควรจะเข้าไปร่วมสนทนา หรือสอดแทรกข้อมูลและเบื้องหลังข่าวที่ตนได้มาจากการเช็คข่าวเพื่อให้การแลกเปลี่ยนใน social media เข้าประเด็นของเนื้อหาที่คุณกำลังเกาะติดอยู่ หรือเรียนรู้มุมมองใหม่ที่คุณคาดไม่ถึง

เพราะ "ปัญญาแห่งฝูงชน" นั้นมีอยู่จริงและบ่อยครั้งจะทำให้ปัญญาของคนทำข่าวได้รับการเสริมส่งให้กว้างขวางและลุ่มลึกขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ

นักข่าวรุ่นใหม่จะต้องมีความคึกคักในการแสวงหาและใช้ "ฐานข้อมูล" หรือ databases เพื่อการนำเสนอลักษณะ interactive และให้การเสนอข้อมูลมีทั้งภาพ, กราฟฟิค, วีดีโออย่างน่าตื่นตาตื่นใจ

นักข่าวดิจิตัลต้องรู้จักการใช้ #hashtag ไม่ว่าจะเป็นหัวข้อของเรื่องราวที่คุณติดตามอยู่ หรือชื่อของชุมชนที่คุณรับใช้ด้านข่าวสาร หรือสองอย่างผสมกันเพื่อความสะดวกในการติดตามข่าวและความเห็นในหัวข้อนั้น ๆ ทั้งจากคุณเองและผู้ที่ติดตามการทำงานของคุณในทุกรูปแบบ

เพราะเมื่อคุณใช้ #hashtag ใดในการทำข่าวหัวข้อใด, ชุมชนทั้งหมดที่เกาะติดเรื่องราวของคุณอยู่ก็สามารถจะใช้เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างกันเองหรือกับคุณอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ

อย่าลืมว่านักข่าวดิจิตัลต้องเตือนตัวเองเสมอว่าจะต้องคิดวิธีนำเสนอข่าวในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอ, แผนที่, ภาพ, ข้อความ, เอกสารต้นทาง, ลิงก์ไปยังแหล่งข่าวและข้อมูลอื่น ๆ

การสร้าง "อัตตลักษณ์" ของตัวเองควบคู่ไปกับ "brand" ขององค์กรข่าวของตนคือเส้นทางแห่งการสร้างความเป็น "คนข่าวมืออาชีพยุคดิจิตัล" อย่างถาวรและแท้จริง

No comments: