Saturday, November 19, 2011

คนข่าวยุคดิจิตัลต้องสร้างตั้งแต่ระดับมัธยม


การสร้างคนข่าวรุ่นใหม่ที่สามารถใช้ทักษิณดิจิตัลและคิดอย่างลุ่มลึกแบบนักข่าวสืบสวนสอบสวนอาจจะต้องเริ่มตั้งแต่ชั้นมัธยม...เพราะหากปล่อยให้จบจากมหาวิทยาลัยภายใต้หลักสูตรเก่าและการสอนสั่งแบบโบราณ บุคลากรที่เราได้ก็จะยังเป็นคนข่าวแบบเก่า ๆ ที่เราจะหวังให้ก้าวเข้าสู่ยุคสมัยแห่งข่าวดิจิตัลไม่ได้เลย

ภาพขัดแย้งที่เห็นชัดเจนในวันนี้คือการไหลบ่าของข่าวสารและข้อมูลอย่างท่วมท้น แต่การทำข่าวอย่างเจาะลึกและตรวจสอบผู้มีอำนาจที่เรียกว่า watchdog journalism กลับลดน้อยถอยลง หรือไม่ก็มีแต่รูปแบบ แต่ไร้เนื้อหาที่แท้จริง

ผมจึงคิดว่าเราจะต้องเริ่มสร้างคนข่าวรุ่นใหม่ตั้งแต่ชั้นมัธยมต้น ด้วยการเขียนหลักสูตร "การทำข่าว" และ "อธิบายข่าว" ให้เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ตั้งแต่เยาวชนของเราเริ่มสัมผัสกับข่าวผ่านสื่อต่าง ๆ ที่ถาโถมเข้ามาหาตั้งแต่รู้ความ

ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมในวิธีคิดนั้นหากปล่อยให้มาถึงระดับมหาวิทยาลัยและต้องเลือกวิชาสื่อสารมวลชนก็จะช้าไปเสียแล้วสำหรับการสร้างคนข่าวรุ่นใหม่ที่ไม่จำเป็นต้องเรียนเฉพาะวิชาสื่อสารฯ แต่ควรจะสร้างความสามารถในการสื่อสารกับคนอื่นและสังคมทั่วไปด้วยการทำให้วิชา digital communications กลายเป็นวิชาบังคับในระดับมัธยม

เพราะในยุคสมัยที่กล้องมือถือ, แทบเล็ท, และอุปกรณ์การสื่อสารผ่าน social media มากมายย่อมเสริมส่งให้คนรุ่นใหม่ของเราสามารถคิดสร้างวิธีการนำเสนอความคิดและข้อมูลกับคนอื่นได้ด้วยวิธีการหลากหลายและกว้างขวางอย่างยิ่ง

ถ้าผมเป็นครูชั้นมัธยม ผมจะสอนให้นักเรียนใช้อุปกรณ์พื้นฐานถ่ายวีดีโอ, ภาพนิ่ง, ในการสัมภาษณ์ผู้คนในชุมชนท้องถิ่นเพื่อนำเสนอความเป็นไปรอบ ๆ ตัวเอง ให้ local news เป็นส่วนสำคัญของการสร้างความตื่นตัวในการแก้ปัญหาของสังคมรอบ ๆ ชุมชนโดยผ่านการทำหน้าที่เป็น "นักข่าวสมัครเล่น" หรือ "นักข่าวพลเมือง" ของคนทุกคนที่สามารถเข้าถึงและรู้ทัน social media ที่สามารตอบสนองความต้องการยกมาตรฐานของคุณภาพชีวิตของผู้คนในแต่ละชุมชนได้

หากผมมีหน้าที่สอนหนังสือตั้งแต่ระดับมัธยม, ผมจะสอนให้นักเรียนให้ห้องแบ่งเป็นกลุ่ม ๆ เพื่อทำรายงานในหัวข้อที่พวกเขาสนใจ ที่พ่อแม่ผู้ปกครองมีความเป็นห่วงใย และที่เป็นหัวข้อการสนทนาในสภากาแฟรอบ ๆ บ้าน ...โดยให้เยาวชนเป็นหัวหอกในการกระตุ้นให้เกิดความตื่นตัวและสนใจใน "ความเป็นไป" ของสังคมท้องถิ่นผ่านความสามารถในการรายงานข่าว, สื่อสารเพื่อมวลชนและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง

ผ่านความเป็น digital information society สมัยใหม่...ที่ต้องเริ่มตั้งแต่บทที่หนึ่งของวิชา "หน้าที่พลเมือง" กันทีเดียว

No comments: